Primavera

ภาพวาด Primavera นี้มีความหมายว่า ฤดูใบไม้ผลิ โดย Botticelli ได้รับมอบหมายจากตระกูล Medici ให้วาดภาพนี้ขึ้นสำหรับเฉลิมฉลองงานแต่งงานของ Lorenzo Medici กับ Semiramide Appiani โดยภาพวาดแสดงให้เห็นถึงดินแดนในตำนานของเทพีวีนัส เพื่อผลงานชิ้นนี้เขาได้ทำตามวิธี Iconographical program คือการยึดตามรูปภาพหรือสัญลักษณ์ดั้งเดิมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาหรือตำนานนั้นๆ โดยเลือกยึดตามผลงานของ Angelo Poliziano ในชุดของภาพกวี ซึ่งเป็นรูปแบบของสวนในเทพนิยาย Botticelli ได้อ้างอิงภาพสวนนั้นมาจากสวนของคฤหาสน์ของตระกูล Medici นอกจากนี้ยังได้รับแรงบันดาลใจจากบทกวีของ Horace อย่าง De Rerum Natura จาก Lecretius และ Fasti จาก Ovid
Venus
สัญลักษณ์ของความรัก พลังของจักรวาล และธรรมชาติ
Zhephyr
เทพเจ้าของสายลมตะวันตก หรือสายลมของฤดูใบไม้ผลิ กำลังไล่จับนางไม้ที่มีชื่อว่า Chloris
Chloris
เป็นทั้งนางไม้และเทพี โดยมีความเกี่ยวข้องกับฤดูใบไม้ผล ดอกไม้ และการเติบโตงอกเงยใหม่ โดยเชื่อว่าอาศัยอยู่ในเขตทุ่งหญ้า Elysian
Flora
เทพีองค์เดียวกับ Chloris โดยนางถูกทำให้กลายเป็นเทพี Flora หลังจากที่ถูกลักพาตัวโดย Zhephyr และแต่งงานกับเขา โดยในภาพวาดนี้ เธอได้สวมชุดที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ซึ่งมีความหมายว่าฤดูใบไม้ผลิและการเจริญพันธุ์
Mercury
เทพเจ้าแห่งเดือนพฤษภาคม และผู้ส่งสารของเหล่าทวยเทพ มีหน้าที่อารักขาสวนของเทพีวีนัส สังเกตได้จากรองเท้าที่มีปีก และดาบที่มีงูพนอยู่รอบๆ ทั้งยังเป็นผู้ซึ่งปัดเป่ากลุ่มเมฆของฤดูหนาวออกไป เพื่อคงไว้ซึ่งฤดูใบไม้ผลิอันเป็นนิรันดร์
Three Graces
ไตรเทพี ซึ่งมีความสำคัญในการเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสตรี ประกอบด้วย พรหมจรรย์ ความงาม และความรัก ในภาพนี้เหล่าเทพีได้สวมใส่ชุดคล้ายลูกไม้และสวมใส่อัญมณีที่มีสีประจำตระกูล Medici พวกเธอตกเป็นเป้าหมายของลูกศรของ Cupid เพื่อตอกย้ำเกี่ยวกับการแต่งงาน
Cupid
บุตรของเทพีวีนัส เขาเล็งคันศรไปที่เหล่าไตรเทพี อนึ่งเพื่อแสดงความหมายของความรักและการแต่งงาน
Orange groves
นอกจากที่จิตรกรจะนำภาพของสวนมาจากคฤหาสน์ของตระกูล Medici แล้ว ส้มยังหมายถึงสัญลักษณ์ประจำตระกูลอีกด้วย